วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

17. ลอยกระทงกับเธอ


วันเพ็ญเดื่อนสิบสองน้ำสงบที่จุฬ่า.........
ปีที่ผ่านมาในวันลอยกระทงครับ วันนั้นพวกเรายังคงต้องมาทำงาน ครับ พอดีว่าฝรั่งไม่มีวันลอยกระทง ถ้ามีพวกผมคงได้หยุดกันแล้ว แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไรครับ เพราะการมาทำงาน ยิ่งทำให้ผมไ้ด้มีโอกาศได้เจอกับคนน่ารักน่ารัก อย่างเธอ.....




วันนั้นพวกเรชาวทอมสันรอยเตอร์ ก็ไม่ได้ทำอะไรทีแตกต่างไปจากวันอื่นๆแต่ พอตกเย็นๆ พวกเราก็ได้เวลาออกไป ลอย ลอย กระทง กัน
ส่วนผม .... ก็มีเพื่อนๆ นัดกันว่าจะไปลอย แต่บังเอิญว่า คนทีผมอยากไปด้วยกว่า ชวนผมเช่นกัน ไม่ต้องเดาอีกแล้วครับบ ผมก็ไปสิ แต่ก็เกรงใจก็เลยต้องถามเค้าก่อนว่าไปด้วยได้ป่าว สรุปว่าได้ครับ....
สุดท้ายเราก็ไปด้วยกันรวมทั้งเพื่อนผมด้วย
เชื่อไหมครับว่า กว่าจะตกลงกันได้ว่าจะไปไหนดี ก็ใช้เวลาพอสมควร แต่สุดท้ายก็ตกลงไปทีจุฬากันครับ highlight ของวันนี้เป็นตอนที่เราไปเล่น ปาวุ้นกัน คือจะเป็นการเอาวุ้นไปปาฉาว ๆ ครับ เป็นผู้ชายแต่หญิงเต้นๆ สนุกมากครับ เสร็จแล้วเราก็ ไปลอยกระทงหมู่กัน จุดไฟเย็นสนุึกสนานครับ



วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

16. ชอบ หรือ รัก


สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นความสับสนกับความรู้สึกของผมที่มีกับตัวเธอนั้นก็คือ ผมรู้สึกชอบเธอหรือ จริงๆ แล้วผมรักเธอไปแล้ว ตอนนี้ผมก็ยังตอบกับตัวเองไม่ได้ครับ รู้แค่ว่าผมฝันที่จะใช้ชีวิตคู้ในอนาคตกับคนๆ นี้ครับ บ่อยครั้งครับที่ผมคิดอะไรเรื่อยเบื่อยเกี่ยวกับชีวิตในอีก 3 ปีข้างหน้าทุกภาำำพจะมีเธออยู่ค้างๆ ครับแล้วอีก 5 ปีเราก็ยังอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แล้วสุดท้ายผมก็กลับมาคิดว่าจะมีวันนั้นได้อย่างไร ผมจะทำปัจจุบันอย่างไร เพื่อที่จะได้มีอนาคตอย่างที่ฝันไว้ ...................

วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

15. ส้มตำสะพานเหลือง


ช่วงนี้มีพี่คนหนึ่งในแก๊ง CRS น้ำหนาวมาขอให้ส่งเมล์ชวนเพื่อนๆ ไปทานข้าวกันแต่ผมยังยุ่งๆ อยู่กับงานก็เลยไม่ได้ ส่งเมล์ไปสักที วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องตอนที่ผมไปกินข้าวกับเพื่อนๆ CRS น้ำหนาวครั้งล่าสุดครับ ตอนนั้นเราไปกินส้มตำครับ... ถ้าพูดถึงร้านข้าวอร่อยๆ แถวทีทำงานตอนนี้ก็นึกไม่ออกครับ เพราะเริ่มจะเบื่อกันแล้ว โชคดีครับที่วันนั้นพี่เค้านัดไปกินส้มตำร้านที่ไม่เคยไปมาก่อน ซึ่งตั้งอยู่ แถวๆสพานเหลืองครับ....ผมจำรสชาติส้มตำไม่ได้ครับแต่ผมจำได้ ว่าคนที่ไปด้วยกันวันนั้นมีเธอไปด้วยครับผมไม่ได้นั่งใกล้เธอครับ ผมไม่ได้ คุยกับเธอครับแต่ ผม มีความสุขที่เจอเธอครับ.....

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553

14. เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ



วันนี้เป็นวันศุกร์ที่สุขยิ่งนักเมื่อเธอบอกกับผมว่า "เราเป็นแค่เพื่อนกันแบบนี้ดีแล้ว" แล้วทำมัยผมถึงสุขได้ละัครับ เรื่อง มันเป็นแบบนี้ครับ คือว่าวันนี้เป็นวันศุกร์เธอไม่มีเรียน ช่วงเย็นๆ เธอต้องย้ายโต๊ะทำงานผมเลย ไปช่วยเธอจัดโต๊ะครับ เหนื่อยเอาการเพราะว่าของเธอเยอะใช้ได้ พอจัดโต๊ะเสร็จเธอก็บอกว่าขอทำงานต่อก่อนนะ ผมก็กลัวว่าเธอจะัหิวก็เลยจะเอา กล้วยที่ซื้อตอนเช้าไปให้ แต่ผมเห็นเธอคุยอยู่กับ เพื่อนเธอซึ่งเพื่อนคนนี้ชอบเธอ และัก็เป็นปัญหาความรักของผม ผมเลยตัดสินใจไม่ไป หาเธอ เดินกลับโต๊ะแล้วส่งขอความไปหาแทน ผมไม่ได้รับข้อความตอบกลับมาเลย ผมก็เลยไปหาเธอที่โต๊ะ ไปกี่ที่เธอก็ไม่อยู่ ผมก็คิดไปต่างๆนานาว่าเธอไปไหน สุดท้ายแล้วเธอก็มาแล้วบอกว่าอยากรู้ไหมไปไหนมา ผมก็บอกว่าอบ่างอยู่ แต่ไม่ถามเดียวเธอก็บอกเอง เธอก็เลยบอกว่าเดียวบอกในรถ พอเรากลับบ้านกันเธอก็บอกผมว่าเธอเคียร์เรื่องเพื่อนแล้วนะ เธอบอกกับเค้าไปเว่าเราเป็นแค่เพื่อนกันแบบนี้ดีแล้ว........

วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2553

13. ตัีวหนังสือสีชมพูในห้อง Chat room..

ผม: Hi

ผม: R u busy ?

นางฟ้า: hi ja : D

นางฟ้า: a bit ja : D

ผม: yesterday i went to the balloon shop and asked them the balloon price

100 pieces is 50 baht

For 1 kilo is 220 baht , I think there are about 1000 piece for 1 kilo

ผม: How many balloon we should prepare for our booth ?

ผม: 1 kilo ?

นางฟ้า: hahaha 1000 pieces????

นางฟ้า: i think ~300 is enough? O_o


วันนี้ผมเอาบทสนทนาแรกๆ ของผมกับเธอมาอวดครับ ไม่ต้อง เดาเลยครับว่าเรื่องที่คุยกันจะเป็นอะไรไม่ใช่เรื่อง หวาน กุ๊กกิ๊ก แน่นอนครับเพราะผมไม่กล้า อาย......

ผมมีโอากาศจะได้คุยกับคนที่ผมแอบชอบมานานก็ตอนที่ต้องทำ กิจกรรมนี้ละครับ ตอนนั้นเราทั้งสองทำ Booth CSR กันครับสืบเนื่องมาจาก เรื่อง กามเทพส่งเมล์จนทีให้เราได้รวมงานกันอีกครั้ง ทำให้ผมได้มีโอกาศคุยกับเธอมากขึ้นๆ และผมก็จำได้ดีครับ ตัวหนังสือสีชมพูในห้อง Chat .... ผมว่าสีตัวหนังสือมันสดใส เข้ากันได้กับบุคลิกเธอเลยครับ น่ารักไหมครับ....

วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2553

12. น้ำ VS สุรา

น้ำ VS สุรา
เวลาคนอกหัก คุณคิดว่าสองสิ่งนี้ คุณคิดว่า สิ่่งไหนทำเหมาะแก่ช่วงเวลานั้นมากที่สุด สำหรับผมผมได้ Prove แล้วครับ ว่าสุราไม่ได้ช่วยอะไรเลย มันอาจจะทำให้วันนั้นผมสามารถหลับตาลงได้ง่ายกว่าวันอื่นๆ แต่ พอตื่นขึ้นมาก ภาพเธอก็ยังคงอยู่ไม่จางไป หลังจากทีเธอบอกบางอย่างกับผม ผมก็รู้สึกว่ากำลังจะเสียเธอไป ตอนนั้นเสียใจพอสมควรครับที่พึ่งหนึ่งก็คือเพื่อนครับ ผมก็เลยชวนเพื่อนๆ กินเบียร์กัน วันผมกับเพื่อนก็ปรับทุกข์กันใหญ่ เราดื่มกันไปไม่มากครับแต่ มันก็ทำให้ผมมึนๆ แล้วผมก็นอนหลับได้สักที แต่อย่างที่บอกไว้ครับ พอตื่นขึ้นมาผมก็คิดถึงเธอ แล้วอะไรละครับจะช่วยผมได้
เคยได้ยินคำว่า ลืมตาในน้ำไหมครับ ผมเลยคิดว่า น้ำดีกว่าสุราครับ เพราะการลืมตาในน้ำมันจะช่วยเราำำกำจัดฝุ่นผงที่เข้าตาได้ไม่มีอะไรมากครับ แค่จะแน่นว่า ลืมตาในน้ำ แต่ผมไม่มีวันลืมเธอครับ

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

11. เบรกมือ


วันที่ 14 เื่ดือน พฤจิกายน 2552 ผม กับ เธอ มี โอกาสได้ ไป เที่ยว ทะ้เล หัวหิน กัน ครับ ไป พัก คอนโด เจ่ ผมเอารถ โตโยต้า โดเรมอนคันโปรดไป นั้นก็เป็นที่มา ของหัวข้อเบรกมืิอ ที่ว่าเบรกมือ ไม่ได้เกี่ยวกับ รถเลยครับ แต่ ระัหว่างทาง กรุงเทพ - หัวหิน ผม จับ มือเธอ ไว้ ตลอด เลยครับ ก็ ทุึกครับ ที่ได้จับ มือนุ่ม ๆของเธอ มันทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ต้องการใครอีก แล้ว ชีวิตนี้............


วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

10. เซียมซี เลขที่ 30

วันส่งท้ายปี ขณะที่หลายๆ คนลายาวไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน แต่ผมกับเธอ และเพือน ๆ พี่ ๆ บางคนยังมาทำงานอยู่ เย็นวันนี้มีพี่คนหนึ่งอยากจะไปทำบุญโลงศพก็เลยชวนๆ กันว่าจะไป ผมก็เลยถามเธอว่าอยากไปทำบุญหรือเปล่า เธอก็อยากไปครับ แล้วเราก็มากันที่วัดหัวลำโพงซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้าผมในขณะที่ผมกำลังเขียนเรื่องนี้อยู่ ต่อครับพอเรามาถึงที่วัดเราก็เริ่มต้นด้วยการบริจากเงินคับ เสร็จแล้วเค้าก็จะมีกระดาษมาให้เราเอาไปแปะไว้ที่โลงศพ.... ผมกับเธอแปะไว้ที่โรงศพโรงเดี่ยวกันครับ (พักแป็บ: เขียนเรื่องเก่าๆ แล้วมันก็อดนึกถึงช่วงเวลาดีๆ ไม่ได้...ตอนนี้ผมคิดถึงเธอจังเลย) ต่อครับ พอแปะกระดาษเสร็จ เราก็ไป ไหวพระครับ ระหว่างนั้นเอง มี เซียมซีให้เราได้เล่นครับ เราทั้งคู้ได้ลองเซี้ยมซี ....ทั้งหมดทั้งมวลที่กว่ามานี้จะบอกเพียงแค่ว่าผมกับเค้าได้ เซียมซีเลขเดียวกันเลยครับ....ดีใจจัง


เทพยดาบรรดาลให้ทั้งโรคภัยไม่มี
ผาสุขสบายทุกๆคน สรรพเรื่อง
ทั้งปวงสมความปรารถนา.....

วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2553

9. ถ้าหน่วยเวลาเป็นนาปี....


หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างเราถูกกันโดยกระจกแห่งความสับสน สิ่งที่เธอขอจากผมในวันนั้น ก็เธอต้องการเวลา...............
โดยปกติแล้วทุกๆ วันที่เธอมีเรียน ผมก็มังจะไปรับเธอที่มหาลัย แต่เมื่อบางสิ่งบางอย่าง เปลีียนไป การกระทำต่างๆ ก็ต้องถูกทบทวนก็แสดงออกทุกครั้ง..... แม้กระทั้ง การจะนั่งรถไปส่งเธอที่บ้านเหมือนเมือก่อน มันก็ทำให้ผม หนักใจได้เช่นกัน

มีอยู่วันหนึ่ง ผมก็ขอเธอว่าจะไปรับที่ มหาลัย เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีของผม พอได้เวลาเลิกเรียนของเธอแล้ว ตอน สามทุ่ม ผมก็ไป รอเธอที่ เดิม วันนั้นเป็นวันที่ เธอออกมาช้าหน่อย ช้่าไป ประมาน 15 นาที..... พอเธอเจอผม เธอก็ขอโทษที่ทำให้รอ แล้วก็ยิ้มให้ ..... การได้เห็นรอยยิ้มเธอสำหรับผมมันทำให้โลกสดใส จุดๆ นี้แล้วยอมทุกอย่าง พอเดินไปสักพัก เธอก็ถามผมว่า รอนานไหม....

ผมไม่ได้ตอบเธอครับ แต่ผมถามตัวผมใจตัวเองอีกครั้ง ด้วยคำถามที่้เปลี่ยนไป คือรอได้ไหม.....?
สิ่งทีใจผมตอบออกมาก็คือ ถ้าต้องรอความรักจากเธอ เหมือนรอรับเธอกลับบ้าน แล้วหน่วยเวลาทีต้องรอจากเิิิดิมที่เป็น นาที เปลี่ยนเป็น นาปี ผมก็จะรอครับ......

วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553

8. Prettiest Friend


มีอยู่วันหนึ่งครับผม กำลังนั่งดู Clip ใน Youtube
Clip ทีดูก็เป็น Update เกี่ยวกับ Jason Mraz ครับ
ดูไปดูมาไป สะดุดเอา เพลงนี้เข้า
ผมฟังทีแรกก็แปรได้ไม่หมดครับแต่รู้ว่ามันเพราะมาก
และมันก็ทำให้ผมใจสั่นโดยไม่รู้เหตุผล
สิ่งเดี่ยวที่ผมคิดถึงตอนนั้นก็คือเธอครับ......................

Prettiest Friend: Jason Mraz

this is what i look like today
and i'm trying not to pull out my hair
i'm trying not to show it cause i'm far too shy to grow it back there
that's probably why i like wearing hats
there's no denying i'm deferring the facts
avoiding confrontation
lacks tact in a situation
behind every line is a lesson yet to learn

but if you ask me
the feeling that i'm feeling is overwhelming
and oh it goes to show
i've so much to know

i wrote this for my prettiest friend
who while trying not to prove that i care
trying not to make all my moves in one motion and scare her away
well she can't see she's making me crazy now
i don't believe she knows she's amazing how
she has me holding my breathe
so i'd never guess that i'm a none such unsuitable, suitable for her

but if you ask me
the feeling that i'm feeling is complimentery
and oh it goes to show
the moral of the story is boy loves girl
and so on the way that it unfolds is yet to be told

i know that i should be brave
even pretty can be seen by the blind
i know that i cannot wait
until the day we finally learn how to find each other
redefining open minds

and if you ask me
the feeling that i'm feeling is overjoyed
and it's golden, it goes to show then
the ending of this song should be left alone
and so on cause the way it unfolds is yet to be told

วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553

7. กามเทพส่งเมล์

วันที่ 24 เดือน มิถุนายน ปี 2009 ผมได้อีเมล์หนึ่งฉบับจากหัวหน้าของผมส่งใ้ห้คนทั้งทีมใจความว่า

We need volunteers for CSR activities.
If you want to experience CSR or to expand your network. And, of course, you have time to contribute to CSR activities (which I believe no), please let me know.

ซึ่งครั้งแรกที่ผมอ่านผมไม่รู้สึกว่าอยากไปรวมเลยครับเพราะยังมีงานต้องทำ
ฉะนั้นอีเมล์ฉบับนั้นก็ถูกผมเพิกเฉยไปอย่างไม่สนใจใยดี
อีก 3 วันต่อมา คงจะมีกามเทพตกงาน ไม่รู้จะทำอะไร
และคงแลเห็นถึงความจริงใจของผมที่มีต่อเธอ กามเทพองค์นั้นคงสงสารคงหยิบ Lab Top ขึ้นมาแล้วส่งอีเมล์มาอีกฉบับ

From:กามเทพ
Sent: 29 June, 2009 18:32
To: เหล่า Managers ทั้งหลาย
Subject: RE: Bangkok CSR Fair - need your support

Do you have any volunteers?
Otherwise, I propose the following 2 staff:
<ขื่อของผม>
<ชื่อชองเธอ>
Just select the names from recent activities (Singing contest, Dev activity respectively). We can discuss in our weekly meeting for this nomination.
Regards
กามเทพ

---------------------------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่ผมได้อีเมล์ฉบับนี้ผมเอะใจมาก ชื่อพนักงานอีกคนที่ถูกเสนอมา คุ้นเหลือเกินครับ
เืพื่อความมั้นใจผมไปเปิดเว็ป HR เืพื่อดูซิว่าเค้าเป็นใคร ...... นางฟ้าของผมเองละครับ...ดีใจ
ถ้าพรลิขิตมีจริง และในวันข้างหน้าเราได้รักกัน ผมจะส่งของขวัญไปขอบคุณกามเทพด้วยตัวเองเลย....
และผมก็รู้แล้วว่า กามเทพองค์นั้นเป็นใคร
ก็คือ หัวหน้าของหัวหน้าของหัวหน้าผมเองละครับ.......

วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2553

6. นินจาอะไรเอ่ย ???

ระหว่างที่ผมกับเธอเดินข้ามถนนตรงสีแยกสีพระยานั้น
อยู่ๆ ผู้หญิงขี้เล่นคนนี้ก็มีของเล่นมาให้เล่้นอีกแล้ว วันนี้เป็นคำถามครับ
เป็นคนถามเกี่ยวกับนินจา ผมแทบตั้งตัวไม่ทันในการตอบคำถามเลยครับ...
นินจาอาไรเอ่ยเร็วกว่านินจาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ผมหยุดคิดอยู่พักใหญ่จนเราเิดินข้ามถนนเสร็จ
ผมตอบไปสอง สามครั้งครับ ซึ่งไม่ถูกแต่ก็ใกล้เคียง
ผมจึงรวบรวมพลังความคิดทั้งหมดที่มี หวังว่าการตอบถูกจะทำให้เธอรู้สึกดี...
พระเจ้าช่วย ผมคิดออกพอดีว่ามันควรจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับการออกเสียง
ผมเลยตอบไปว่า เป็นนินจะ ! หรือป่าว(ออกเสียงให้สั้น)
เธอก็บอกว่าถูกต้องเก่งจังเลย ผมดีใจมากเลยครับ
เธอบอกว่าไม่ค่อยมีคนตอบได้
เธอให้รางวัลที่ผมชอบมากครับเป็นรอยยิ้มที่หาไม่ได้ที่ไหนครับ
จากนั้นก็มีนินจาอีกหลายแบบ ออกมาทาย
ผมใช้พลังจนหมดเลยครับวันนั้น
ผมมีความสุข.......แล้วคุณละครับ...

วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2553

5. Next Station บานสุดท้าย โบกี้หลังสุด



หลังจากที่ผมบังเอิญเจอเธอในรถไฟใต้ดิน MRT ในช่วงเวลาเช้าๆตอนไปทำงาน ผมได้มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอจนกระทั่งรู้ว่าเธอใช้ MRT เพื่อมาที่ทำงานเป็นหลัง
ด้วยความอยากบังเอิญเจอเธอบ่อยๆ ทุกครั้งที่ผมขึ้น MRT ผมก็จะไปนั่งที่โบกี้สุดท้าย....
Next Station ... Petchaburi


ที่ประตูบานสุดท้่ายโบกี้หลังสุด ผมเฝ้ามองดูว่าวันนี้จะมีนางฟ้าแก้มป่อง เทพแห่งรอยยิ้ม ถืิอถุงคำภีร์ใบโต ปรากฏตัวขึ้นหรือป่าว หวังว่าคนธรรมดาอย่างผมจะมีช่วยนางฟ้ายกของ...
เชื่อไหมครับว่าฝันเป็นจริง วันไหนที่ผมอาจจะเจอเธอมากๆ ผม ก็จะ รวมสมาธิ แพ่งจิตไปที่ "ประตูบานสุดท้าย โบกี้หลังสุด แล้ว อธิษฐาน ขอให้เจอ ขอให้เจอ
มันได้ผลครับ หลายต่อหลายครั้ง มีนางฟ้าของผมเดินหิ้วถูกใส่คำภีร์เข้าประตูมา หลังจากนั้นผมก็
มีความสุขไปทั้งวัน

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2553

4. Message แห่งความทรงจำ...

วันพุธที่ 28 เืดือนตุลาคม ปี 2552 ที่ผมจำได้ดี......
ขณะที่ผมยังอยู่ที่ห้องเพราะลางานตอนเช้า หัวใจผมก็พองโตและ อาการดีขึ้นทันตาเห็น ผมได้รับข้อความให้กำลังใจจาก ผู้หญิงที่น่ารักที่สุดในโลก ผมนั่งจ้องหน้าจอ IPhone แบบนี้อยู่ เป็นชั่วโมงโิดยไม่รู้สึกเบื่อ ไม่อยากปล่อยมือถือไป หยิบยา เพราะกลัวว่า เดียวขอความนั้นจะหายไป... จริงๆ แล้วขอความนี้ ไม่ใช่ข้อความแรกที่ผมได้จากเธอ ก่อนหน้านี้เธอได้ส่งข้อความ good night มาให้ก่อนนอน แต่ข้อความนี้มันทำให้ผม รู้ว่าอย่างน้อยเธอก็ เป็นห่วงผม .........
แม้ภาพเธอวันนี้มันจะไม่ชัดเจน แต่ผมไม่มีวันลืม รอยยิ้มที่ผมหลงรัีกมาโดยตลอดได้เลย.....

วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2553

3. เจอแต่ไม่กล้าที่จะคิด คิดแต่ไม่กล้าที่จะเจอ


วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่ผมต้องอยู่ในสถานะการณ์แบบนี้
ทำใจยากเหลือเกิน ....
ต้องขอโทษเพื่อนๆ พี่ๆ ใน Team
ที่ทำให้บรรยากาศในการทานข้าวไม่ เฮฮาเท่าที่ควร
แต่กระนั้น ตลกคณะ RMDS ก็ยังหัวเราะกันได้
เรื่องที่ทำให้หัวเราะส่วนหนึ่งก็หนีไม่พ้น
การแซวกัน ผมก็โดนบ่อยๆ
มีอยู่คำหนึ่งครับที่ พอได้ยินแล้วมันทำให้ผมคิดถึงบางภาพ
กับสองความรู้สึก
ความรู้สึกแรกคือก่อนที่จะได้รู้จักใกล้ชิดกับคนๆนี้
"เจอแต่ไม่กล้าที่จะคิด"

คนที่ผมเจอในภาพผมไม่กล้าที่จะคิดเอื้อมมือไปคว้าเพราะกลัวจะ....ผิดหวัง
แต่พอผมได้รู้จักและได้ใกล้ชิดเธอมากขึ้น ผมเองก็อดไม่ได้ที่จะคิดกับเธอไปไกล
ผมคิดกับเธอมากเกินกว่าเพื่อนไปแล้ว แล้วบางสิ่งก็เหมือนจะไปได้ด้วยดี
แต่แล้วผมก็ต้องหยุดบางอย่างไว้ ...
ณ วันนี้ผมไม่ค่อยกล้าที่จะเจอกับเธอทั้งที่ผมหยุดคิดถึงเธอไม่ได้เลยแม้แต่นาทีเดี่ยว

"คิดแต่ไม่กล้าที่จะเจอ"

วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553

2. ทำความรักให้เป็นเรื่องสบาย...แล้วคุณจะมีความสุข



พี่ Film พี่คนสวยที่พวกเราใน Team RMDS Core เรียกกันว่า เจ้
ผู้หญิงคนนี้ให้คำปรึกษาได้เสมอ เรื่องการทุน การซื้อบ้าน การซื้อรถ
หรือแม้แต่เรื่องความรัก.....
พี่เค้าก็เต็มใจให้คำปรึกษาครับ

แต่ต้องขอเตือนStep ที่เจ้แนะนำให้ทำค่อนข้างจะมากหน่อยนะ
ผมเองก็เป็นหนึ่งคนครับที่ ไปขอคำปรึกษาเจ้ บ่อยๆ
ช่วงนี้เป็นเรื่องความรัก คำหนึ่งที่ผมได้รับมาจากเจ้และผมจำมันได้ดีคือ

"ทำความรักให้เป็นเรื่องสบาย...แล้วคุณจะมีความสุข"

ผมเองก็กลับมาคิดว่าความรักของผมแบบไหน ที่ว่าสบายๆ นะ
ผมได้ข้อสรุปในใจว่า รักคือการให้
ดันนั้นผมจะพยายาม "ให้" ได้มากที่สุดครับ

แม้สุขท้ายจะได้ไม่ได้อะไรกลับมาเลย................. Timmy...

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

1. ครั้งแรกของการเขียน Blog



ถ้าการเขียน หรือ Post ความรู้สึกของผู้ชายคนหนึ่งที่มีให้กับผู้หญิงคนหนึ่งลงบนการดาษITแผ่นนี้
มันช่วยทำให้..หากว่าวันหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นได้มีโอกาสเปิดกระดาษเหล่านี้ออกมาอ่าน
และรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ผู้ชายคนนั้นที่พยายามจะบอกออกมาจริงๆ ละก็

ตั่งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะพยายามเขียนถ่ายทอดทุกๆ ความรู้สึกที่ผมมีกับผู้หญิงคนหนึ่ง
ลงบนกระดาษIT แผ่นนี้ทุกๆครั้งที่มีโอกาส
เพียงแค่หวังว่าการทำแบบนี้มันจะดีว่าการแสดงออกโดยการกระทำ หรือ แม้แต่การพูด
1 ปี ซึ่งเท่ากับ 365 ต่อไปนี้ผมขอบันทึกความรู้สึกผ่านทางการเขียน.....